วิโรจน์-สหพันธ์การขนส่งฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนส่วยสติกเกอร์ถึงจเรตำรวจแห่งชาติ

Last updated: 15 มิ.ย. 2566  |  281 จำนวนผู้เข้าชม  | 

วิโรจน์-สหพันธ์การขนส่งฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนส่วยสติกเกอร์ถึงจเรตำรวจแห่งชาติ


           เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 66 คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และคุณอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยพร้อมคณะได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือหลักฐานส่วยสติ๊กเกอร์ให้กับ พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ
 

   โดยคุณวิโรจน์กล่าวว่า หลักฐานที่มีเป็นของทั้งผู้ประกอบการและพลเมืองดีที่แจ้งเบาะแสเข้ามาเพื่อให้ตำรวจนำไปดำเนินการสืบสวนเชิงลึกและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อการยื่นหนังสือครั้งนี้คาดหวังให้สืบสวนไปถึงการเรียกรับประโยชน์ทั้งระบบและให้ดำเนินคดีทั้งผู้สนับสนุนให้บรรทุกน้ำหนักเกิน เช่น โรงโม่ บริษัทขายหินทราย ให้มีคำสั่งยึดใบอนุญาตประกอบโรงงาน หรือใบ ร.ง.4 ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาบรรทุกน้ำหนักเกินจนนำไปสู่การจ่ายส่วยและไม่อยากให้มีการกลั่นแกล้งรังแกผู้ประกอบการที่ทำสุจริต
 
      อีกทั้งการค้าสำนวนของพนักงานสอบสวนที่อาจจะร่วมกับอัยการบางคนในการดำเนินคดีกับรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินจากปกติบรรทุกได้ไม่เกิน 55 ตัน แต่เมื่อถึงด่านชั่งน้ำหนักนั้นน้ำหนักเกิน 100-200 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ และจะมีคำสั่งยึดรถจากอัยการในระหว่างดำเนินคดีในชั้นศาล และอาจจะถูกอุทธรณ์คดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ทำให้ถูกยึดรถต่อเนื่อง แต่หากมีการจ่ายเงินก็จะถูกดำเนินคดีในชั้นศาล ซึ่งศาลก็จะสั่งลงโทษปรับ 3,000-5,000 บาท และเห็นว่าคดีเหล่านี้เป็นการลงโทษที่ไม่สมส่วน
 

          คุณอภิชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันมีรถบรรทุกอยู่ในไทยกว่า 1.5 ล้านคัน แต่เป็นสมาชิกของสหพันธ์การขนส่งฯ กว่า 4 แสนคัน และได้ทำ MOU กันว่าจะต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งก็ถือว่าเป็นส่วนน้อยที่อยู่เหนือการควบคุมในการทำผิดกฎหมาย ปัญหาดังกล่าวก็ถือว่ามีมานานแล้วและไม่ได้รับการแก้ไข ในครั้งนี้เมื่อมีหลักฐานจึงนำมามอบให้ตำรวจตรวจสอบ พร้อมยืนยันว่าไม่มีนัยใดๆ ทั้งสิ้น หรือเป็นการขัดผลประโยชน์จากกลุ่มผู้ประกอบการในสหพันธ์การขนส่งฯ ด้วยกันเอง หากพบสมาชิกคนใดทำผิดเงื่อนไขก็จะไล่ออกจากการเป็นสมาชิกทันที และสามารถตรวจสอบรถบรรทุกที่อยู่ในสหพันธ์การขนส่งฯ ได้ เพราะมีความชัดเจนมาโดยตลอด ส่วนการเข้าไปร่วมตรวจสอบกับตำรวจหรือจะลงไปตรวจสอบในสถานที่ที่มีปัญหา ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ
 
         คุณวิโรจน์กล่าวต่อไปว่า การเข้ามาอยู่ในสหพันธ์การขนส่งฯ ของผู้ประกอบการรถบรรทุกเป็นความสมัครใจ ไม่สามารถเหมารวมได้ว่าคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจะทำผิดกฎหมายทั้งหมด แต่ผู้ประกอบการบางคนหรือเจ้าของรถบรรทุกก็อยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องจ่ายส่วย เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งก็ต้องเป็นปัญหาที่จะต้องได้รับการแก้ไข
 
         ด้าน พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จะรับข้อมูลของทั้งสองฝ่ายไปสืบสวนและดำเนินการถึงตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่เฉพาะตำรวจทางหลวง แต่รวมไปถึงหน่วยอื่นๆ ตามที่มีข้อมูลปรากฏ โดยเรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ตรวจสอบให้ถึงที่สุด แต่หากใครยังมีข้อมูลในเรื่องดังกล่าวก็สามารถส่งมาให้ได้ ส่วนรถบรรทุกที่ทำถูกกฎหมายอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวล จะได้รับความคุ้มครอง และจะดำเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน
 
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทาง  คนรักสิบล้อ (KhonRakSipLo)
 


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้