Last updated: 15 มิ.ย. 2566 | 349 จำนวนผู้เข้าชม |
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.66 เวลา 09.40 น. ณ สำนักงานจเรตำรวจ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจ แห่งชาติ เปิดเผยถึงคดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกว่า หลังจากที่ได้รับข้อมูลมาจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล และสหพันธ์การขนส่งทางบก แห่งประเทศไทยมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เบื้องต้นพบมีมูล หลายเรื่องที่ต้องลงไปตรวจสอบ ขณะนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างสรุปข้อมูล ซึ่งสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ จะดูภาพรวมทั่วประเทศ ส่วนของกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จะให้กองบัญชาการตำรวจ สอบสวนกลาง (บช.ก.) รับผิดชอบ
“ส่วนกรณีที่ผมไปตรวจราชการในพื้นที่ จ.นครปฐม และเข้าไปภายในที่ทำการสถานีตำรวจกก.2 บก.ทล. โดยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า และพบเพียงตำรวจชั้นประทวนอยู่ 3 นาย โดยที่ ผกก. และรอง ผกก. ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ จึงสั่งการให้ทำรายงานชี้แจงมาแล้ว โดย ผกก. นำรายงานมาส่งให้เมื่อเช้า ที่ผ่านมา ระบุเหตุผลเข้ามาประชุมที่ บก.ทล. ส่วน รอง ผกก. ไปราชการที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เตรียมส่ง รายงานนี้ ต่อให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดพิจารณาว่าจะดำเนินการ อย่างไร จเรตำรวจแห่งชาติไม่ได้มีคำสั่งลงโทษ แต่เห็นควรจะมีตำรวจระดับหัวหน้าสถานีปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ตลอด หากไม่ได้ไปปฏิบัติราชการที่อื่น”
พล.ต.อ.วิสนุกล่าว
พล.ต.อ.วิสนุกล่าวต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.66 บก.ทล. มีคำสั่งให้ตำรวจในสังกัด 40 นาย เข้ารายงานตัว ตามคำสั่งให้ย้ายมาปฏิบัติราชการที่ บก.ทล. จากการ ตรวจสอบไม่พบรายชื่อของ ผกก.2 บก.ทล. อยู่ในคำสั่ง แต่มีรายชื่อตำรวจที่อยู่ใน กก.2 บก.ทล. อยู่ใน คำสั่งรวม 7 นาย ทั้งชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ทั้งนี้ สำนักงานจเรตำรวจจะลงสุ่มตรวจสถานีตำรวจต่างๆอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานได้ไปที่ สภ.พุทธมณฑล และ สภ.นครชัยศรี มีหัวหน้าสถานีตำรวจให้การต้อนรับ และให้บริการประชาชนอยู่ตามความรับผิดชอบ
ณ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 12.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ครม.ถึงกรณี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.66 ว่า ตนเรียกเข้ามาหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติ ตามกฎหมายในหลายๆเรื่อง โดยกำชับไปทั้งหมดที่มีข้อร้องทุกข์หรือเรียกร้องมา ต้องหาวิธีแก้ปัญหาให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ต้องร่วมมือกันทั้งบังคับใช้กฎหมายและผู้ที่ยึดถือกฎหมายเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วยรถบรรทุกหรือเรื่องอื่น เคยบอก ไปแล้วว่า หากประชาชนออกมาช่วยกันแบบนี้ ร้องทุกข์ กล่าวโทษเรื่องใดเราจะดำเนินการให้ ไม่ได้ไปเบี่ยงเบน ประเด็นแต่ต้องมาดูว่าทำความผิดหรือไม่ ถ้าตัวเองทำความผิดแล้วไปเสนอผลประโยชน์ หรือเขาเรียกแล้ว ให้เขา ก็ถือเป็นความผิด เบื้องต้นสั่งการตรวจสอบให้มี ความชัดเจนมากขึ้น ในส่วนของกระทรวงคมนาคมให้ เข้มงวดเรื่องน้ำหนักรถบรรทุก ต้องจับทุกคันที่กระทำผิด ตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็ต้องถูกลงโทษด้วย
ติดตามข้อมูลข่าวสารทาง คนรักสิบล้อ(KhonRakSipLo)